มีนาคม 28, 2024, 05:54:09 pm

ข่าว:

บริการเจาะสำรวจดินและทดสอบดิน โทร. 0-2729-5031, 085-917-7163


กระทู้เมื่อเร็วๆ นี้

หน้า 1 2 3 4 5 ... 10
21
 :wanwan020: ไหน ๆ วันนี้ก็เป็นวันศุกร์สุดสัปดาห์กันแล้ว อีกทั้งยังเป็นศุกร์สิ้นเดือนด้วย บางท่านก็คงจะได้รับเงินเดือนกันไปบ้าง บางท่านก็ยังไม่ได้รับ แต่ผมว่าทุกท่านคงจะมีความสุขกันนะครับสำหรับวันนี้ เย็นวันนี้ก็อาจจะรถติดบ้างอะไรบ้าง ก็อย่าเครียดกันเลยนะครับ พรุ่งนี้ก็เป็นวันหยุดพักผ่อนกันแล้ว ผมและทีมงานบริษัท เดนิช ซอยล์ เอ็นจิเนียริ่ง ทุกคน ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านประสบแต่ความโชคดี ทุกภารกิจสำเร็จลุล่วงดังใจหวัง ปัญหาทุกอย่างคลี่คายมลายหายไป พักผ่อน ช้อบปิ้ง ลัลล๊า ชิล ชิล กันดีกว่าครับ ให้หายเหน็ดเหนื่อยกันดีกว่านะครับ พร้อมรับมือกับงานที่รอท่านอยู่ในวันจันทร์หน้ากันดีกว่านะครับ สู้ ๆ นะครับ ทุกท่าน  :wanwan021:
22
:wanwan035: อีกไม่นานก็คงจะถึงฤดูแห่งการท่องเที่ยวกันแล้ว ลมหนาวที่มาพร้อมกับมนต์เสน่ห์ของเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งจะเห็นได้ว่าเขาค้อช่วงเดือนกันยายน ถึงเดือนตุลาคม เป็นช่วงที่สุดยอดที่สุดของปี กับผู้คนต่างพากันเข้ามาพักผ่อนกันแบบ ชิล ชิล หากหลงมาเที่ยวในช่วงนี้ อาจทำให้ถึงขั้น FOR IN LOVE อย่างถอนตัวไม่ขึ้นเลยทีเดียว เพราะเป็นช่วงเวลาที่ผสมผสานความลงตัวของธรรมชาติแวดล้อมทุกอย่าง หล่อหลอมรวมกันจนกลายเป็นมนต์เสน่ห์แห่งเขาค้อ ปลายฝน ต้นหนาว แต่ช่วงเวลานี้ ตอนนี้ฝนก็ยังตกอยู่เลย ทำให้ดินในแต่พื้นที่ชุ่มไปด้วยน้ำ โดยเฉพาะดินในป่า หรือ ดินตามหุบเขาที่ไม่ได้ผ่านการบดอัดมาก่อน จึงทำให้เป็นอุปสรรคต่อการเดินทางของนักธรณีวิทยาเป็นอย่างมาก ในการที่จะเข้าไปสำรวจ แต่ถ้ามีการเตรียมตัวที่ดี อุปกรณ์พร้อม รถพร้อม ข้อมูลแน่น ก็มีชัยไปกว่าครึ่ง

สำหรับวันนี้เราจะเตรียมข้อมูลด้านธรณีวิทยาของจังหวัดเพชรบูรณ์ ก่อนที่ออกไปสำรวจจริงแล้วกันนะครับ พื้นที่ตอนเหนือ ตั้งแต่ อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ขึ้นไป ตามแนวเทือกเขาเพชรบูรณ์ตะวันตกเป็นกลุ่มหินโคราช หมวดหินห้วยหินลาด ภูกระดึง พระวิหารเสาขัว ภูพาน และโคกกรวด ตามแนวเทือกเขาเพชรบูรณ์ตะวันออกเป็นกลุ่มหินโคราชหมวดหินห้วยหินลาด และน้ำพอง กับกลุ่มหินสระบุรียุคเพอร์เมียน พื้นที่ตอนกลางและตอนล่างเป็นกลุ่มหินสระบุรีกับหินอัคนีพุ ประเภทหินไรโอไลต์ หินแอนดีไซต์ หินทัฟท์ และหินบะซอลต์ ที่ปรากฏสัณฐานให้เห็นในลักษณะของเขาโดด กลุ่มเขาโดดและลูกเนินหินภูเขาไฟอยู่ทั่วไป ตามที่ราบบริเวณตอนกลาง ตามแนวแม่น้ำป่าสักที่วางตัวในแนวเหนือใต้ เป็นเขตธรณีตะกอนยุคควอเทอร์นารี ขณะนี้นักธรณีวิทยาก็ได้ศึกษาลักษณะทางธรณีวิทยาในเบื้องต้นกันแล้ว ต่อไปเราก็จะศึกษาในเรื่องของพันธุ์ไม้ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ก็จะมี กระท้อน แดง ชัน ตะเคียนทอง ตะแบกใหญ่ ประดู่ ยาง เมื่อพร้อมแล้ว นักธรณีวิทยาก็เตรียมตัวออกเดินทางกันได้เลยครับ หลังจากสำรวจเสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็เที่ยวเขาค้อ สูดโอดซนให้เต็มปอด กับอ้อมกอดของขุนเขา ประทับใจไปกับความ AMAZING ของทะเลหมอกที่เขาค้อกันนะครับ  :-[

(กวี วรกวิน, 2546, หน้า 88)
23
:wanwan021: วิศวกรโครงสร้างมีหน้าที่ดูแลระบบงานพัฒนาโครงการก่อสร้างนั้น ๆ ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด นั่นก็หมายความว่า โครงสร้างของสิ่งปลูกสร้างจะต้องมีระบบภายในที่มีความแข็งแรง ซึ่งจะได้มาจากโครงสร้างของฐานราก เสาเข็ม ที่งตั้งอยู่บนชั้นดินที่มีความแข็งแรงเพียงพอ อีกทั้งในเรื่องของระบบการหมุนเวียนของงบประมาณโครงการก่อสร้าง ก็ต้องประหยัดที่สุด จุดแข็งสำคัญอีกอย่างหนึ่ง ที่จะทำให้สิ่งปลูกสร้างนั้นงอกงามขึ้นไม่อย่างสมบูรณ์ที่สุด คือ ผู้ที่เป็นเจ้าของ หรือ ผู้จัดโครงการก่อสร้างจะต้องมีความรู้พื้นฐานในงานทุกด้านของโครงการ ในลักษณะแต่ลักษณะของงานแต่ละงานนั้น ถ้ามองในเรื่องของการออกแบบ ก็จะต้องนึกถึงสถาปนิก แต่ด้วยความรู้และประสบการณ์ก็ไม่สามารถออกแบบโครงสร้างได้ ก็ต้องมือวิศวกรโครงสร้าง ที่มีความรู้ ความสามารถ ออกแบบโครงสร้างของสิ่งปลูกได้นั้น ๆ ด้วยงบประมาณที่เหมาะสมที่สุด และ ผลงานที่ออกมานั้น เป็นที่น่าพอใจของเจ้าของหรือผู้จัดการโครงการมากที่สุด

การเจาะสำรวจดินและทดสอบดิน จะช่วยในเรื่องของการเลือกใช้ฐานรากได้ดีที่สุด ซึ่งจะต้องมีการนำผลการทดสอบดินที่ได้ มาคำนวณหาค่ากำลังรับน้ำหนักของดิน หาขนาดของเสาเข็มที่ใช้ จากก็นั้นข้อมูลที่ได้นั้น มาใช้ประกอบในการออกแบบฐานราก ซึ่งจะต้องเป็นระบบโครงสร้างฐานรากที่สามารถยึดเหนียวโครงสร้างของตัวอาคารไว้ได้อย่างมั่นคงถาวร

วิศวกรโครงสร้าง ควรจะให้คำแนะนำในเรื่องของการเจาะสำรวจดินและทดสอบดิน ว่าควรจะต้องมีการว่าจ้างบริษัทที่เหมาะสมที่สุด กับงานด้านการเจาะสำรวจดินมากที่สุด คือ วิศวกรโครงสร้างจะต้องทำงานร่วมกับบริษัทเจาะสำรวจดินที่มีพื้นฐานและความรู้เฉพาะทาง ด้านการเจาะสำรวจดินดีที่สุด เมื่อได้รับผลการทดสอบดินแล้ว วิศวกรโครงสร้างจะต้องมีการอธิบายผลให้กับเจ้าของงานและสถาปนิก เพื่อจะนำผลการทดสอบดินที่ได้ไปวิเคราะห์ว่าจะออกแบบโครงสร้างนั้นอย่างใด

วิศวกรโครงสร้างที่มีศักยภาพเพียงพอต่อทำงานนั้น จะต้องเริ่มจากการประชุมร่วมกับเจ้าของโครงการหรือผู้จัดการโครงการ และ สถาปนิกผู้ออกแบบโครงสร้างเบื่องต้น นอกจากในเรื่องของโครงสร้าง ทั้งลักษณะภายนอกและภายในของสิ่งปลูกสร้างนั้นแล้ว ยังต้องศึกษาในเรื่องของทำเลที่ตั้งโครงการ ทางด้านภูมิศาสตร์ของ SITE งานนั้นด้วย วัสดุอุปกรณ์และสิ่งที่ต้องใช้ในงานก่อสร้าง งบประมาณที่ต้องใช้หมุนเวียนในโครงการก่อสร้าง ในกรณีที่ต้องมีชั้นใต้ดิน วิศวกรโครงสร้างก็ต้องมีการวางแผนล่วงหน้าเอาไว้ด้วย ว่าจะต้องมีกี่ชั้น

หลังจากที่ได้ทำการเจาะสำรวจดินและทดสอบดินเป็นที่เรียบร้อยแล้ว วิศวกรโครงสร้างก็จะต้องปรึกษาหารือกับเจ้าของโครงการเกี่ยวผลการทดสอบที่ได้นั้น เป็นอย่างไร จะต้องมีกำหนดหรือชี้ชัดไปเลย ผลการทดสอบที่ว่านั้นสามารถนำไปใช้ได้หรือไม่อย่างไร จะต้องทดสอบอะไรเพิ่มเติมบ้าง ซึ่งการเจาะสำรวจดินเป็นการทดสอบทางด้านวิศวกรรมธรณีเทคนิค เพื่อทดสอบกำลังความสามารถของดิน หรือ จะเป็นหินที่แข็งพอที่จะรับน้ำหนักได้ การทดสอบดินจะทำให้รู้ถึงคุณสมบัติของชั้นดินและหิน แน่นอนว่า การเจาะสำรวจดินและการทดสอบดินจะต้องสืบเนื่องไปถึงการออกแบบฐานราก :-[
24


เมื่อกล่าวถึงทำเลที่ตั้งโครงการก่อสร้าง ท่านผู้อ่านหลาย ๆ ท่าน คงจำกัดความคิดของท่านอยู่ในชุมชนเมือง ที่รายล้อมไปด้วยตึกรามบ้านช่องน้อยใหญ่ จะเป็นไปได้หรือไม่ครับ ถ้าผมจะขอเรียกว่าสิ่งที่ได้กล่าวมาข้างต้นว่า "ป่าคอนกรีต" ซึ่งถนนหนทาง ความสะดวกสบาย ชีวิตความเป็นอยู่ ดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องง่ายไปกับความเจริญทางวัตถุ แต่ถ้ามองไปในอีกด้านหนึ่งของผู้ที่รักความเป็นธรรมชาติอย่าง คุณสืบ นาคะเสถียร ท่านเป็นนักอนุรักษ์และนักวิชาการด้านทรัพยากรธรรมชาติชาวไทย  มีชื่อเสียงจาการพยายามปกป้องแก่งเชี่ยวหลานและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่-ห้วยขาแข้ง และการฆ่าตัวตายเพื่อเรียกร้องให้สังคมเห็นความสำคัญของการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ผมคิดว่า การใช้ชีวิตในป่าของท่านของพบกับอุปสรรคและปัญหามากมาย เช่นเดียวกับผู้ที่มีความจำเป็นต้องทำงานในป่า หรือ ไปเจาะสำรวจดินในป่าลึก ซึ่งห่างไกลความเจริญ Site งาน โครงการก่อสร้างอยู่ในป่า ซึ่งลักษณะดินในป่านั้น เป็นดินที่ไม่ได้ผ่านการบดอัดแต่อย่างใด ฉะนั้น รถที่วิ่งได้นั้น ต้องเป็น ออฟโรด และ อุปกรณ์เสริมซึ่งสำคัญมาก คือ Winch ที่ทำให้คุณสามารถแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ในสถานการณ์ที่แตกต่างกันออกไปดังนี้



ในกรณีที่ล้อหน้าจมโคลนจนมิด ถึงขั้นไม่สามารถดึงรถขึ้นได้ จากภาพในกรณีที่หนึ่ง (1) ซึ่งการใช้วินส์ลักษณะนี้ จะมีแรงด้านมาก ดังนั้นจึงจำเป็นต้องลดแรงต้านให้น้อยลง ด้วยวิธีการดึงทำมุมให้สูงขึ้น จากภาพในกรณีที่สอง (2) รถสามารถขึ้นจากโคลนได้ง่ายกว่าในกรณีที่หนึ่ง ในบางครั้งรถประเภทคานแข็งจึงไปดึงที่เพลาหน้า



คำเตือน ! ระวังขณะเข้าโค้ง รถอาจตกเขาได้ การใช้วินส์วิธีนี้ รถจะไปตามแรงดึงแนวของสลิง จะบังคับทิศทางรถได้ยาก





หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด ในกรณีที่รถเกิดพลิกคว่ำ ในกรณีที่กำลังคนไม่พอที่จะสามารถดันรถให้พลิกกลับขึ้นมาได้ สลิงก็สามารถเป็นตัวช่วยที่ดีของคุณได้อีก โดยการที่คุณนำสลิงมาพันรอบรถ แล้วดึงรถกลับมา หรือ ใช้รถดึงทีละด้านก็ได้นะครับ



นี่เป็นอีกวิธีหนึ่งของการใช้สลิง คือ การใช้สลิงขวาง เพื่อให้วินส์เป็นไปตามทิศทางที่ต้องการ หรือใช้รอกช่วยปรับทิศทางของรถ




ในกรณีที่มีสิ่งกีดขวางขนาดใหญ่ ประเภท ไม้ซุง ซึ่งจำเป็นต้องใช้วินส์ลากไม้ซุงให้พ้นทาง




การใช้ลูกกลิ้งกับ วินส์ เพื่อช่วยลดแรงเสียดทานที่สายสลิงกับพื้นดิน  เราจะดึงรถขึ้นหรือโรยตัวลงจากเขาได้


ท่านสามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ : www.khonplainam.com/board/index.php?topic=683.0
25
 :wanwan002: ผมไม่รู้ว่าคุณคิดอย่างไรเกี่ยวกับการที่คุณจะต้องเพิ่มงบประมาณอัตราจ้างประมาณราคาค่าเจาะสำรวจดิน ในการที่จะบวกเพิ่มเข้าไปในงบประมาณโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ ซึ่งมีต้นทุนในการก่อสร้างเป็นหลัก 10 ล้าน ขึ้นไป กับงบประมาณที่อาจสูญเสียไปกับความมักง่ายของวิศวกรโยธาผู้ออกแบบฐานราก ไม่ว่าจะเป็นประเภทของฐานรากที่เลือกใช้ จำนวน ขนาด ของเสาเข็ม ที่ได้มาจากการพินิจพิจารณาของวิศวกรโยธาผู้ออกแบบ ซึ่งปราศจากข้อเท็จจริงที่ได้มาจากการเจาะสำดินและทดสอบดินในห้องปฏิบัติการ ช่วยเพิ่มความมั่นใจ ลดอัตราความเสี่ยง ขยับความใกล้เคียงให้ตรงสภาพความเป็นจริงให้ได้มากที่สุด เพื่อความสมบูรณ์แบบในการออกแบบฐานรากให้ได้มากที่สุด เสียงบประมาณค่าเจาะสำรวจดินเพียงน้อยนิด ปิดบัญชีค่าความผิดพลาด ลดต้นทุน เพิ่มกำไร ให้กับโครงการก่อสร้างอย่างโดดเด่นกันเลยทีเดียว ไม่เพียงแค่นั้น เรื่องใหญ่อย่าง วินาศภัยที่เกิดจากเหตุการณ์ตึกถล่มที่เกิดจากควมวิบัติโครงสร้างของฐานรากก็อาจเกิดขึ้นได้ ท่านผู้อ่านเห็นหรือไม่ครับว่า การเจาะสำรวจดินเป็นสิ่งที่ไม่ควรเพิกเฉยกันเลยใช่หรือไม่ครับ  :wanwan016:
26
 :-\ Soil boring test are performed to discover the qualification of the soil test at the specific location. There are different procedures of soil boring test. After the soil samples are analyzed, a report is prepared recommending the type of foundation to be used. Before a foundation is decided, it is essential to assign the properties of the soil at the site of construction. This is done by conducting soil boring test.

In this  procedure, bore holes are made in the ground and the soil samples kept. Boring helps in obtaining  1) extent of each strata of soil/rock  2) nature of each layer and the engineering properties of the soils  3) location of ground water table. The depth and number of boreholes will depend upon the type of the structure and nature of the soil as obtained from preliminary examination. The depth of boreholes is commanded by the depth of the soil affected by the loading. As a rough estimate, it is recommendable to investigate the subsoil to a depth of at least twice the width of the forecasted largest size of the foundation. In case of a pile foundation, the depth of boring should extend into the bearing stratum.

Methods of Soil Boring Test

Auger Boring

The examination of the soil for ordinary buildings can be done by a post hole auger. The auger is held vertically and is driven into the ground by rotating its handle. At every 30 cm of depth, the auger is taken out and the soil samples collected.

Wash Boring

Wash boring is commonly used for boring in difficult soil. The hole is advanced by an auger and then a casing pipe is pushed to prevent the sides from caving in. A stream of water under pressure is forced through the rod into the hole. The loosened soil in suspension in water is collected in a tub.

Percussion Boring

In this method, the substrata is broken by repeated blows by a bit or chisel. Water is circulated in the hole and then the slurry is bailed out of the hole.

Core Drilling

When rocks are to be penetrated for examination, core drilling is resorted to. In this process, a hole is made by rotating a hollow steel tube having a cutting bit at its end.

Bearing Capacity

The bearing capacity of a soil is defined as the capacity of the subsoil to support the load of the structure without yielding. The bearing capacity of the soil depends upon the characteristics such as cohesion, friction, and unit weight. The bearing capacity can be determined in the field and also from the results of tests conducted in the laboratory on the soil samples.

The foundation is that part of the building which serves as a base and transmits the load to the soil. Before a foundation is designed, it is necessary to investigate the characteristics of the underlying soil. There are different methods to assess these characteristics.  :-[

resource : www.brighthubengineering.com
27
 :wanwan044: Soil test and soil boring test by professional of Civil Engineering which is bearing capacity of soil to support the loads applied to the ground. The bearing capacity of soil is the maximum average affiliate pressure between the foundation and the soil which should not produce shear failure in the soil. Ultimate bearing capacity is the logical maximum pressure which can be supported without failure allowable bearing capacity is the ultimate bearing capacity divided by a factor of safety. Sometimes, on soft clay projects, large settlements may originate under loaded foundations without actual shear failure originating in cases the allowable bearing capacity is based on the maximum allowable settlement. This is necessary of soil boring test and foundation design project. :wanwan008:
28
 :wanwan021: ผมว่าแล้ว เรื่องการเจาะดินนั้นดีอย่างไร ผมว่าดีนะครับ รู้เรื่องดินก่อน ฐานรากแข็งแรงแน่นอนครับ รู้จริง เห็นจริง เจาะจริง ใส่ใจในคุณภาพ เราพร้อมรับใช้ท่านด้วยแนวทางการเสนอข้อเท็จจริงให้ท่านอย่างตรงไปตรงมา ประสิทธิภาพและประสิทธิผลของงานเจาะสำรวจดินนั้น อยู่ที่จรรยาบรรณวิชาชีพวิศวกรโยธา มาครับ เรามาร่วมงานกัน เราให้ความสำคัญกับทุกโครงการก่อสร้าง ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ ด้วยดวงจิตและวิญญาณแห่งแรงปราราถนาให้ผลงานการเจาะสำรวจดินและทดสอบดินที่คลอดออกมานั้น เลิศที่สุด ดีที่สุด แล้วสิ่งปลูกสร้างของท่านอยู่จนชั่วลูกชั่วหลาน ยังไงอ่านแล้วบอกต่อก็จะดีมากเลยนะครับ ขอบคุณครับ  :-X
29
 ;D  ;D ณ อณาเขตบริเวณพื้นที่ดินของโครงการก่อสร้างโดยรอบ หากพิจารณากันแบบธรรมดาแล้ว ลักษณะของดินก็คงจะเหมือนหรือคล้ายคลึงกัน แต่ถ้ามีการล้วงลึกจนพ้นระดับชั้นผิวดินลงไปในระดับหนึ่ง ก็จะเห็นความแตกต่างของลักษณะและประเภทของชั้นดินแต่ละชั้น มาถึงขั้นนี้แล้วก็ให้มันถึงชั้นดินที่มีความแข็งแรงเพียงพอ ที่จะมีกำลังรับน้ำหนักของโครงสร้างของฐานรากกันเลยดีกว่าครับ ซึ่งก็ต้องมีการนำเครื่องมือที่มีชื่อเป็นภาษาฝรั่งว่า motorized drilling rig หรือไม่ก็ถึงขั้น rotary drilling machine มาดำเนินการเจาะดินและทดสอบดินกันดีกว่าครับ  ???  ???
30
  ;) Soil boring test is the procedure of using a hand auger or rotary drill rig to keep a soil sample from below the surface of the land. The resulting hole in the subsurface is also called a soil boring. By creating a soil boring, you can keep exchange soil samples from below ground.
The depth of a soil boring is limited only by the ability of the  apparatus that you use to create the hole. For example, a hand auger relies on the strength of the operator to advance the tool and cannot go as deep as a rotary drilling rig that uses engine power to advance the augers.
The depth of the sample that you are trying to  receive will dictate the type of tool that you should use.  :wanwan008:
หน้า 1 2 3 4 5 ... 10